กลับไปยังหน้าแรก

   

เมื่อสมัยที่น้าเมฆยังเด็กนั้น คุณพ่อของน้าเมฆเคยทำหนังสือนิทานให้เล่มหนึ่ง
ที่วาดด้วยดินสอดำโดยใช้ลายเส้นง่ายๆ จนกลายมาเป็นความทรงจำที่ผูกพันกับหนังสือนิทาน
และตั้งใจไว้ว่าถ้าวันไหนน้าเมฆมีลูก ก็จะทำหนังสือนิทานให้เขาบ้าง :)


แล้ววันนั้น..ก็มาถึงครับ
สำนักพิมพ์ก้อนเมฆถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2550
โดยมีสองแรงหลักๆ คือแม่เอ๋ยเป็นบ.ก. และน้าเมฆเป็นคนแต่งเรื่อง
บวกกับแรงสนับสนุนอีกมากมาย เหมือนกับละอองน้ำเล็กๆ
ที่มารวมพลังกันจนเป็นก้อนเมฆได้สำเร็จในที่สุด

ก้อนเมฆบนท้องฟ้า
เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดและจินตนาการ

รองศาสตราจารย์เกริก ยุ้นพันธ์
ผู้สอนวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร


   

เพราะเชื่อมั่นว่าการเลี้ยงลูกด้วยหนังสือคือการปูพื้นฐานที่สำคัญสำหรับเด็กทุกคน
สำนักพิมพ์ของเราจึงตั้งปณิธานไว้ว่า ต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้คือ

1. เนื้อหาต้องดี
2. รูปและสีต้องสวย
3. รูปเล่มของหนังสือต้องมีคุณภาพ
4. ขายในราคาที่คุณพ่อคุณแม่พอซื้อได้

ข้อแรก...เริ่มต้นที่เนื้อหา ทดสอบแล้วว่าดี
หนังสือทุกเล่มที่สำนักพิมพ์ก้อนเมฆทำ เราจะเอาไปทดสอบกับเด็กจริงๆ ก่อนทำการจัดพิมพ์
อาทิ หนังสือสีสนุก น้าเมฆได้เอาไปให้เด็กๆ ที่โรงเรียนอนุบาลได้อ่าน
เด็กๆ ชอบเพราะสีสันสวยงาม คุณครูก็ชอบบอกเนื้อหาดี สอนได้หลายเรื่อง ตัวหนังสือโตอ่านง่าย

อีกทั้งสอบถามขอคำแนะนำจากบุคลากรผู้มีประสบการณ์ในชุมชนหนังสือเด็ก
http://www.babybooks.bloggang.com
อย่างคุณครูชีวัน วิสาสะ, พี่แต้ว (ระพีพรรณ พัฒนาเวช),
พี่บอมบ์ (กฤษณะ กาญจนาภา), พี่อ้อย (วชิราวรรณ ทับเสือ) เป็นต้น

ข้อสอง...รูปและสีต้องสวยถูกใจเด็กๆ
เราเลือกคนทำงาน รูปแบบ และเทคนิคการวาดให้เหมาะกับเนื้อหาในแต่ละเรื่อง
บางครั้งถ้าต้องการรูปที่เหมือนจริง
ทีมงานทุกคนต้องออกไปดู สเก็ตช์ และถ่ายรูปจากวัตถุหรือสถานที่จริง
อย่างเช่น เรื่อง "ลมเย็นเล่นว่าว" เราทำการสำรวจ หามุมสวยๆ จากสถานที่จริง

การออกไปสำรวจสถานที่ในกรุงเทพฯ สำหรับเรื่อง "ลมเย็นเล่นว่าว"

การออกไปสำรวจสถานที่ในกรุงเทพฯ สำหรับเรื่อง "ลมเย็นเล่นว่าว"

การออกไปสำรวจสถานที่ในกรุงเทพฯ สำหรับเรื่อง "ลมเย็นเล่นว่าว"

และภาพเหล่านี้จะปรากฏขึ้นในหนังสือในที่สุด

ภาพสถานที่จริงและรูปวาดในเล่ม

ภาพสถานที่จริงและรูปวาดในเล่ม

ภาพสถานที่จริงและรูปวาดในเล่ม

ภาพสถานที่จริงและรูปวาดในเล่ม

ภาพสถานที่จริงและรูปวาดในเล่ม

เล่มใหม่ล่าสุด "ย.ยักษ์ไม่ยอมยิ้ม"
ทีมงานของสำนักพิมพ์ก้อนเมฆก็ได้ไปเก็บภาพจากรูปปั้นยักษ์อินทรชิตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ภาพการเข้าไปเก็บภาพยักษ์ "อินทรชิต" ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

เมื่อทำรูปเล่มเสร็จแล้ว เราส่ง ด.ช.ไทแทน มอบหนังสือ "ย.ยักษ์ไม่ยอมยิ้ม"
ให้กับยักษ์ "อินทรชิต" และยักษ์ "สุริยาภพ"

รูปส่งมอบหนังสือ ย.ยักษ์ไม่ยอมยิ้ม ที่วัดพระแก้ว

รูปส่งมอบหนังสือ ย.ยักษ์ไม่ยอมยิ้ม ที่วัดพระแก้ว

ข้อสาม...คุณภาพของรูปเล่มต้องดีและทน
ถ้าทำหนังสือเด็กเนื้อกระดาษต้องดีและทนทานพอสมควร
เพราะเราเข้าใจพฤติกรรมของเด็ก ไม่กิน ก็ฉีก หรือเอาหนังสือไว้ขว้างปา โตหน่อยก็เอาดินสอสีมาละเลง
ใจจริงสำนักพิมพ์ก้อนเมฆก็อยากทำปกอ่อน จะทำให้ประหยัดต้นทุนไปมากทีเดียว
แต่มาคิดแล้วว่า เล่มแรกอยากเปิดตัวด้วยเล่มปกแข็งที่แข็งแรงคงทนดีกว่า
ดังนั้นเราเลยผลิตหนังสือให้ได้คุณภาพเหมือนสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือเด็กที่ดีๆ ในเมืองไทย

การควบคุมการพิมพ์
น้าเมฆและแม่เอ๋ยบุกไปดูสีเองที่หน้าแท่นพิมพ์ เพื่อให้แน่ใจว่า สีที่พิมพ์ตรงกับที่เราได้ออกแบบไว้



สีสนุก ต้องได้สีสดและถูกต้องนะครับ


แม้ในรายละเอียดเล็กๆ อย่างสันปก ก็ต้องดูให้แน่ใจครับ

คุณเต่าพูดเพราะ จากหนังสือทำมือมาสู่งานพิมพ์

ต้องควบคุมคุณภาพสีและลายเส้นการระบายสีไม้

ไม่ว่าเล่มใหม่ หรือ เล่มเก่าที่ได้รับการพิมพ์ซ้ำ
เราเข้าไปตรวจสอบคุณภาพสีหน้าแท่นพิมพ์ทุกเล่ม

เข้าไปตรวจสอบสีหน้าแท่นโรงพิมพ์

เข้าไปตรวจสอบสีหน้าแท่นโรงพิมพ์

เข้าไปตรวจสอบสีหน้าแท่นโรงพิมพ์

ข้อสุดท้าย...ราคาแบบเข้าใจหัวอกพ่อแม่
พ่อแม่หลายคนบ่นว่าหนังสือเด็กราคาแพง
พ่อแม่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะซื้อปกอ่อนเพราะราคาถูกกว่าเกือบครึ่งนึงเลย
แต่ก็จะมีครอบครัวบางกลุ่มจะซื้อปกแข็งเพราะทนกว่า พ่อแม่อยากจะเก็บไว้ให้ลูกดูเมื่อโตแล้ว
บางครอบครัวพอมีหนังสือล้นบ้าน ก็จะขายซาเล้ง ชั่งกิโล
แต่เขาจะไม่ขายหนังสือเด็กของลูก เพราะมันเป็นความทรงจำที่ดีและหนังสือเหมือนเป็นครูคนแรกๆของลูก

น้าเมฆก็เป็นคุณพ่อประเภทที่อยากเก็บหนังสือให้ลูกเหมือนกัน เลยขอเลือกทำเฉพาะปกแข็งก่อนเป็นเล่มแรก
หนังสือเด็กปกแข็งทั่วไป จำนวนหน้าราวๆ 24 หน้า สูงสุดไม่เกิน 32 หน้า ราคาตั้งแต่ 150 - 220 บาท
แต่ของสำนักพิมพ์ก้อนเมฆ 36 หน้า ราคา 165 บาท อยากให้พ่อแม่ที่ซื้อไปรู้สึกว่าคุ้ม
เราตั้งใจไว้ว่าทำราคาให้เราพออยู่ได้ มีแรงทำหนังสือในเล่มต่อๆ ไป

และเล่มใหม่ๆ ของเราทำเป็นปกอ่อนในราคาย่อมเยา 55 บาท
หรือถ้าเป็นปกอ่อนเล่มใหญ่ขึ้น เนื้อใน 24 หน้า ราคา 95 บาท
ล่าสุดเราออกหนังสือขนาดกลางปกอ่อน เนื้อใน 20 หน้า ราคา 75 บาท
และเริ่มทำหนังสือ 2 ภาษาออกมาแล้ว

กลับไปยังด้านบน

   
แม่เอ๋ย

แม่เอ๋ย
นักออกแบบอิสระและนักเขียนบทความด้านดีไซน์
เคยทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนที่เป็นอาณาจักรแห่ง "หนังสือเด็ก" :)
ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นคุณแม่จอมประดิษฐ์หนังสือและสื่อเพื่อลูก

น้าเมฆ

น้าเมฆ
อดีต บ.ก. และอาจารย์สอนด้านคอมพิวเตอร์ให้กับผู้ใหญ่
แต่มีใจรักในการสอนศิลปะและเล่านิทานให้กับเด็กๆ
เป็นคุณพ่อลูกหนึ่งที่ชอบเล่านิทานให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง

พี่พิมพ์

พี่พิมพ
กราฟิกดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์งานกราฟิกและแอนิเมชั่น
ให้กับบริษัทการ์ตูนชื่อดัง มีงานอดิเรกคือทำให้เด็กๆ มีความสุข
และสนุกไปกับตัวการ์ตูนที่ตัวเองวาด

พี่ปังปัง

พี่ปังปัง
นักวาดภาพประกอบผู้ชื่นชอบการวาดการ์ตูนมานาน
มีผลงานออกแบบการ์ดและสิ่งพิมพ์ต่างๆ แต่แอบชื่นชมงานหนังสือเด็กมาสักระยะ
จนตัดสินใจก้าวออกมาสร้างสรรค์งานศิลปะสวยๆ ให้กับเด็กๆ

พี่โบ
พี่โบ
นักวาดภาพประกอบผู้รักเด็กและเสียงดนตรี
มีความสุขกับการทำงานศิลปะและรักงานหนังสือ
เพราะวัยเด็ก แม่อ่านหนังสือนิทานก่อนนอนให้ฟังทุกคืน
ไทแทน
ไทแทน
ทีมงานตัวเล็ก แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่
ทำให้มีสำนักพิมพ์ก้อนเมฆเกิดขึ้นมา
คุโระ
คุโระ
แมวดำใส่ถุงเท้าขาว 4 ข้าง เดินลาดตระเวนทั่วสำนักพิมพ์
ชอบนอนซุกพี่ปังปังเวลาทำงาน และกัดปลายคางแม่เอ๋ยเป็นงานอดิเรก
จิงโกะ จิงโกะ
พี่น้องของคุโระ มีโลโก้มิกกี้เมาส์เป็นลายข้างลำตัว
ชอบล่าสัตว์ ปีนต้นไม้ แม้จะจากพวกเราไปเสียแล้ว...แต่ยังอยู่ในใจของทุกคนเสมอ